หลายคนอาจคิดว่าการถมที่ดินเป็นเพียงการนำดินมาถมให้เต็มพื้นที่ แต่ในความเป็นจริง Land Filling คือกระบวนการทางวิศวกรรม ที่ต้องอาศัยการคำนวณอย่างละเอียด ทั้งชนิดของดิน ระดับความสูง ความชื้น และการบดอัดให้แน่นตามมาตรฐาน
หากถมที่ดินโดยไม่ผ่านการตรวจสอบหรือไม่บดอัดอย่างถูกต้อง อาจเกิดปัญหาตามมา เช่น
พื้นทรุดตัว
รอยร้าวในอาคาร
น้ำขังหรือระบายน้ำไม่ดี
ซึ่งล้วนเป็นปัญหาที่แก้ไขยากและมีค่าใช้จ่ายสูงในภายหลัง
สำรวจพื้นที่ – ตรวจสอบระดับดินเดิม ความลาดเอียง และระบบระบายน้ำ
คัดเลือกวัสดุถมที่เหมาะสม – เช่น ดินลูกรัง ดินดาน หรือดินทราย ขึ้นอยู่กับลักษณะโครงสร้างที่จะก่อสร้าง
ถมและบดอัดเป็นชั้น ๆ – เพื่อให้ดินแน่นและกระจายน้ำหนักได้ดี
ตรวจสอบความแน่นของดิน (Compaction Test) – ขั้นตอนสุดท้ายที่รับรองว่าพื้นดินพร้อมสำหรับการก่อสร้างจริง
ปัจจุบัน งานถมที่ดินไม่ได้อาศัยเพียงแรงงานและเครื่องจักรเท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เช่น
ระบบวัดระดับด้วย GPS และเลเซอร์
เครื่องบดอัดแรงสูง
ระบบตรวจสอบคุณภาพดินแบบเรียลไทม์
เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้การทำ Land Filling มีความแม่นยำ ปลอดภัย และลดความผิดพลาดในการทำงาน
การทำ Land Filling อย่างถูกต้องและได้มาตรฐานคือ “การลงทุนเพื่อความมั่นคงในระยะยาว” ของสิ่งปลูกสร้างทุกชนิด เพราะหากเริ่มต้นด้วยพื้นดินที่แข็งแรง ทุกสิ่งที่สร้างต่อจากนั้นก็จะมั่นคงและปลอดภัย
“งานก่อสร้างที่ดี ต้องเริ่มจากการถมที่ดินที่มีคุณภาพ”
Land filling Pro Services